top of page
ค้นหา

ที่ปรึกษา ศบค.เผยเตรียมฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็ม 3 ให้บุคลากรการแพทย์-กลุ่มเสี่ยง

  • รูปภาพนักเขียน: Mukky Kaimuk
    Mukky Kaimuk
  • 6 ก.ค. 2564
  • ยาว 1 นาที

ที่ปรึกษา ศบค. เผยเตรียมนำวัคซีนไฟเซอร์ที่จะได้รับบริจาค 1.5 ล้านโดส มาฉีดเป็นเข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยง แต่ถ้ามาช้าจะนำแสตร้าเซนเนก้ามาฉีดให้ไปก่อน


ศ.เกียรติคุณ นพ.อุดม แทงหวยยี่กี ที่ไหนดี คชินทร ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แถลงว่า ที่ประชุมคณะที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของ ศบค.วานนี้ (5 ก.ค.) ได้หารือเรื่องของวัคซีน และรายงานผลการประชุมให้นายกรัฐมนตรีรับทราบว่า ในช่วง 2 เดือนนี้ พบการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาทั่วโลกไปกว่า 96 ประเทศ


โดยในประเทศไทยช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. พบการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาแล้วกว่า 30% หากนับเฉพาะใน กทม.และปริมณฑล พบสายพันธุ์เดลตากว่า 50% ซึ่งระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟา 40% ทำให้เราคาดการณ์ว่าอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ทั้งโลกและประเทศไทยจะเป็นการระบาดที่มาจากไวรัสสายพันธุ์เดลต้าเกือบทั้งหมด


“ลักษณะพิเศษของสายพันธุ์เดลตา จะทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการปอดอักเสบได้เร็วขึ้น ซึ่งใช้เวลาเพียง 3-5 วันก็ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแล้ว และส่งผลทำให้มีความต้องการเตียงสำหรับผู้ป่วยหนักเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเตียงสีแดง และหากปล่อยเหตุการณ์แบบนี้ไปเรื่อยๆ จะส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุข” ศ.นพ.อุดม ระบุ


ทั้งนี้ ไวรัสกลายพันธุ์จะทำให้เกิดการดื้อของภูมิที่เกิดจากวัคซีน ซึ่งก่อนหน้าเรามีวัคซีนเป็นตัวควบคุมการระบาด วัคซีนทำจากไวรัสตัวดั้งเดิม คือ ไวรัสสายพันธุ์อู่ฮั่น แต่ตัวกลายพันธุ์ยังไม่มี และตอนนั้นไวรัสที่ทำจากอู่ฮั่นได้ผลดีมาก แต่ตอนนี้กลายพันธุ์เป็นเดลตา, อัลฟา ทำให้ประสิทธิภาพวัคซีนลดลงชัดเจน จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่การกลายพันธุ์ทำให้ดื้อต่อภูมิที่เกิดจากวัคซีน ซึ่งไม่ใช่ว่าวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพ แต่เกิดจากไวรัสได้กลายพันธุ์นั่นเอง


“มีความจำเป็นต้องมีวัคซีนเจเนอเรชั่นใหม่ที่จะคลอบคลุมตัวกลายพันธุ์ทั้งหลาย ทั้งอัลฟาและเดลตา ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มี เขากำลังทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็น แอสตร้าเซนเนก้า ซิโนแวค ไฟเซอร์ โมเดอร์นา คาดว่าเร็วสุดปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า” ศ.นพ.อุดม ให้ข้อมูล


สำหรับวัคซีนที่ใช้อยู่ปัจจุบัน เมื่อพบว่าติดเชื้อจากสายพันธุ์เดลตาจะส่งผลให้ภูมิคุ้มกันลดลง ส่วนการป้องกันโรคนั้น วัคซีนไฟเซอร์ป้องกันสายพันธุ์เดลตาลดลงจาก 93% เหลือ 88% ส่วนแอสตร้าเซนเนก้า ป้องกันสายพันธุ์เดลตาลดลงจาก 66% เหลือ 60% แต่ป้องกันการเข้ารักษาในโรงพยาบาล การเจ็บป่วยรุนแรง ไฟเซอร์ป้องกันได้ 96% แอสตร้าเซนเนก้าป้องกันได้ 92%


“ซิโนแวค ข้อมูลน้อย เราไม่มีข้อมูลว่าป้องกันได้เท่าไร แต่ถ้าเราเทียบจากภูมิต้านทานที่เราดู เราคิดว่าป้องกันสายพันธุ์เดลตาไม่ดีแน่ melotto แต่ซิโนแวค 2 เข็ม จะป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง หรือเข้าโรงพยาบาล หรือป้องกันตายได้มากกว่า 90% ในข้อมูลในหลายประเทศที่ใช้ซิโนแวค และในประเทศไทยที่เราเก็บข้อมูลที่ภูเก็ต ที่เราฉีดซิโนแวคเยอะสุด” ศ.นพ.อุดม กล่าวเสริม


พร้อมย้ำว่า การป้องกันให้ไม่เจ็บป่วยรุนแรง จะช่วยให้ไม่ต้องไปโรงพยาบาล เพราะจำนวนเตียงที่มีขณะนี้ถือว่าตึงมากในทุกระดับ ทั้งสีเขียว เหลือง และแดง โดยเฉพาะสีแดงเหลือแค่เพียง 20-30 เตียง ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้หนักจริงๆ ในภาวะก่อนโควิดเฉพาะกรุงเทพฯ ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ มีเตียงสีแดงรวมกันประมาณ 230 เตียง แต่ต้องขยายเตียงเพิ่มเป็น 400 กว่าเตียง แต่แพทย์และพยาบาลยังเท่าเดิม


ศ.นพ.อุดม ระบุว่า แม้คนไข้ติดโควิดตามธรรมชาติ แต่มีข้อมูลออกมาว่าหลังติดเชื้อแล้วภูมิต้านทานจะลดลงเร็ว 3-6 เดือน และบางคนภูมิต้านทานกลับไม่เพิ่มขึ้นด้วย


ทั้งนี้ ระหว่างที่รอวัคซีนตัวใหม่ต้องมีกระบวนการในการสร้างภูมิเพิ่มขึ้น เพื่อไปต่อสู้กับเชื้อกลายพันธุ์ หรือการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แต่ยอมรับในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการจากองค์การอนามัยโลก หรือจากประเทศใดๆ ว่า ต้องฉีดเข็มที่ 3 มีเพียงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรน ที่มีการฉีดเข็มที่ 3 แต่หลักการสำคัญคือ ต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 ให้ครบก่อน


ที่ปรึกษา ศบค. กล่าวเพิ่มเติมว่า วัคซีนซิโนแวคฉีด 2 เข็ม ค่าครึ่งชีวิตของระดับภูมิคุ้มกันอยู่ประมาณ 3-4 เดือน และจำเป็นต้องมีการฉีดกระตุ้น ซึ่งจากผลการประชุมคณะกรรมการวัคซีนเมื่อวานนี้ เห็นว่ากลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคเป็นหลัก ต้องได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ซึ่งต้องเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า หรือไฟเซอร์หากได้มาในเวลาอันใกล้เพราะเรากำลังจะได้มา 1.5 ล้านโดสในเดือนนี้ แต่ยังไม่รู้ว่าแน่นอนจะมาเมื่อไหร่ เพราะมีข้อมูลจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด พบว่าฉีดแอสตร้าเซนเนก้าครบ 2 เข็มแล้วเว้นไป 6 เดือน แล้วฉีดเข็ม 3 จะกระตุ้นภูมิต้านทานได้ 6 เท่าและปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงมากมาย


แต่ถ้าหากวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสเข้ามาได้เร็ว ทางคณะที่ปรึกษาฯ จะให้คำแนะนำไปที่นายกรัฐมนตรีว่าควรจะให้บุคลากรทางการแพทย์ได้รับการฉีดเป็นกลุ่มแรกก่อน ส่วนที่เหลือให้กับคนที่มีความเสี่ยงในกลุ่มโรคต่างๆ


ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม และเมื่อผ่านไป 3-4 เดือน ควรมีการฉีดเข็มที่ 3 และต้องเป็นวัคซีนชนิดอื่น เช่น แอสตร้าเซนเนก้า หรือวัคซีนประเภท mRNA


“ท่านทั้งหลายอย่าไปกรุณาดาวน์เกรดซิโนแวค แม้จะรู้ว่าประสิทธิภาพการป้องกันมันน้อยก็จริง แต่มันลดเจ็บป่วยรุนแรงไม่ต่างจากแอสตร้าเซนเนก้าหรือไฟเซอร์นัก ท่านฉีดไปก่อน เมื่อมีเข็ม 3 มา ซึ่งมีเวลา 3-6 เดือนข้างหน้า แล้วท่านรอคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุข” ศ.นพ.อุดม ระบุ

 
 
 

Comments


โพสต์: Blog2_Post
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn

©2020 by kaimukjop2020. Proudly created with Wix.com

bottom of page